ต้นมะหลอด กิ่งพันธุ์มะหลอด จำหน่าย ออนไลน์ บริการจัดส่งทั่วประเทศ

ราคาขายส่ง สำหรับมารับที่สวน (ราคาอัพเดท เดือน พ.ย. 2564)

สำหรับแม่ค้า พ่อค้า ที่ต้องการมารับที่สวน ทางสวนตั้นแน้ว ให้เราคาส่งเลยค่ะ รับมากกว่า 100 ต้นขึ้นไป เราให้ที่ ต้นละ 35 บาท และถ้ารับต่ำกว่า 100 ลงมา ให้ที่ 50 บาท
ต้นมะหลอด เพาะเมล็ดราคาส่ง
ต้นมะหลอดเปรี้ยว ราคาส่ง
ต้นมะหลอด เมืองเลย

ราคาสำหรับขายปลีก สั่งออนไลน์

ขาย ต้นมะหลอด (หมากหลอด) ชำพร้อมปลูก มีบริการจัดส่งถึงบ้าน ขายถูก ต้นเล็ก 100 บ./ต้น และต้นใหญ่ 150 บาท/ต้น สนใจติดต่อ ไอดีไลน์ tannaew หรือ ที่ FB: สวนตั้นแน้ว โทร 093-484-5870 เก็บเงินปลายทางได้เลยค่ะ

มะหลอด (Bastard Oleaster)

 

ผลมะหลอด ที่กำลังจะสุก

สอบถาม โทร: 087-831- 4785 หรือติดต่อได้ที่ไลน์ ไอดี @tannaew และที่ facebook.com/tannaew99

ต้นมะหลอด หรือ บะหลอด เป็นพืชที่พบได้มากทางภาคเหนือ ตามป่า ตามทุ่งนาที่เป็นป่าชื้น ป่าเบญจพรรณ และตามเนินเขาในที่ร่ม ระดับ 200-1,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งแต่ละท้องถิ่นเรียกพืชชนิดนี้แตกต่างกันออกไป ภาคเหนือบางพื้นที่จะเรียกว่า สลอดเถา หมากหลอด หรือ บะหลอด ทางภาคใต้เรียกว่า ส้มหลอด ส่วนภาคอีสานเรียกว่า หมากหลอด

ลักษณะผลของมะหลอด จะมีลักษณะเป็นรูปรี รูปไข่ ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วสีจะออกเป็นสีแดง ลักษณะคล้ายๆ กับมะเขือเทศราชินี แต่ผิวเปลือกจะสาก มีจุดสีขาวเงินรอบๆ ผลมะหลอด ด้านในของผลมีเมล็ดแหลมยาวรีสีน้ำตาลเหลือง และด้วยมีรสเปรี้ยวจัดทำให้มะหลอดมีสรรพคุณเด่น คือ ช่วยเป็นยาระบาย แก้บิดและท้องผูกได้เป็นอย่างดี

มะหลอด (Bastard Oleaster)

มะหลอด (Bastard Oleaster) จัดเป็นผลไม้ป่าชนิดหนึ่งที่ผลมีสีแดงเรื่อสดใส มีรสเปรี้ยว ซึ่งมีศักยภาพปลูกเพื่อการค้าได้ โดยเฉพาะการนำมาทำแยม เยลลี่ และไวน์ นิยมใช้ประโยชน์โดยตรงสำหรับการรับประทานสด การนำไปประกอบอาหาร โดยเฉพาะเมนูอาหารที่ต้องการรสเปรี้ยว เพราะใช้แทนมะนาวได้

อนุกรมวิธาน 
• วงศ์ (family): Elaeagnaceae
• สกุล (genus): Elaeagnus
• ชนิด (species): latifolia

• ชื่อวิทยาศาสตร์: Elaeagnus latifolia Linn.
• ชื่อสามัญ: Bastard Oleaster
• ชื่อท้องถิ่น :
ภาคกลาง และทั่วไป
– มะหลอด
ภาคเหนือ
– สลอดเถา
– บะหลอด
ภาคอีสาน
– หมากหลอด
ภาคใต้
– ส้มหลอด

ที่มา: https://siamroommate.com/มะหลอด/

ภาพต้นมะหลอด พุ่มใหญ่มาก หากหน้าออกผล จะออกทุกกิ่งเลย

ประโยชน์ของมะหลอด

มาดูกันว่า มะหลอด ที่มีรสเปรี้ยว ผลสีแดงคล้ายมะเขือเทศราชินี มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ทำไมเราถึงควรปลูกไว้สักต้น 2 ต้น

1. มะหลอดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ หนุ่มสาวที่รักในการดูแลผิวแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดเลย

2. ผลของมะหลอด สามารถนำไปดอง หรือทำเป็นผลไม้แช่อิ่มได้

3. ผลสุกของมะหลอด นำมารับประทานกับน้ำพริกหวาน จะได้รสชาติที่อร่อย เปรี้ยวจี๊ด ลดอาการง่วงได้เป็นอย่างดี

4. ผลดิบสีเขียว สามารถนำมารับประทานร่วมกับน้ำพริกถั่วเน่าพันด้วยผักกาดและผักชีได้ คล้ายๆ กับเมี่ยงคำ หรือนำมาทำส้มตำ แกงส้ม ก็ได้เช่นกัน

5. ด้วยรสที่เปรี้ยวนำ ผลสุกของมะหลอดจึงเป็นยาระบายอ่อนๆ หากรับประทานในปริมาณมาก ก็อาจท้องเสียได้ และยังช่วยแก้อาการบิด อาการท้องผูกในเด็กได้อีกด้วย

6. มะหลอดช่วยแก้อาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ หากเมารถ หรือเวียนหัว หั่นจิ้มกับน้ำพริกหวาน หรือหั่นคลุกด้วยพริกเกลือ ก็ช่วยได้

ต้นมะหลอด สวยๆ

สรรพคุณของมะหลอด

นอกจากมะโยชน์ของส่วนผลที่กล่าวมาแล้ว ส่วนอื่นของต้นมะหลอดก็มีสรรพคุณเด่นเช่นกัน

1. ส่วนดอก มีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยคุมธาตุในร่างกาย ช่วยแก้โรคตา ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ช่วยแก้ริดสีดวงจมูก เป็นยาฝาดสมาน และเข้าเครื่องยาสมุนไพรได้

2. ส่วนใบ ช่วยบำรุงเนื้อหนังให้สมบูรณ์

3. ส่วนราก นำไปแช่เหล้าที่ทำจากข้าวเหนียวตำ ใช้รับประทานแก้อาการปวดกระดูก ปวดหัว หรืออาการเข่าเดินไม่ได้

4. ส่วนต้น นำไปต้นน้ำอาบ สามารถแก้อาการใจสั่นได้

5. ส่วนเปลือกต้น ช่วยขับเสมหะได้

บอกได้เลยว่า ประโยชน์และสรรพคุณมากมายเลยทีเดียว หากใครที่ชอบผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มะหลอด ก็ถือเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก

หากสนใจต้นกล้ามะหลอด สามารถติดต่อได้ที่ Line ID: tannaew บริการส่งทั่วประเทศ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://medthai.com/มะหลอด/

การปลูก และเพาะขยายพันธุ์มะหลอด

1. การเพาะเมล็ด

การเพาะเมล็ด เป็นวิธีดั้งเดิมที่ง่าย และรวดเร็ว โดยคัดเลือกผลที่สุกเต็มที่แล้ว จากนั้น นำมาแยกเมล็ดออก ก่อนล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำเมล็ดไปผึ่งลมให้แห้ง 3-5 วัน จากนั้น นำเมล็ดลงเพาะในถุงเพาะชำรดน้ำให้ชุ่ม และเมล็ดจะงอกภายใน 15-20 วัน เมื่อดูแลจนได้ประมาณ 1 เดือน จึงย้ายลงปลูกตามจุดที่ต้องการ ส่วนเมล็ดที่เหลือสามารถเก็บพักไว้ในถุงกระดาษ และเก็บได้นานเป็นปี

2. การปักชำกิ่ง

วิธีการปักชำมีข้อดีคือ ใช้เวลาสั้น ช่วยให้ได้ต้นที่พร้อมอกดอก และผลได้ภายในไม่กี่เดือนหลังการปลูก และสามารถขยายกิ่งพันธุ์ได้รวดเร็ว และได้จำนวนมาก

การปักชำเริ่มด้วยการเตรียมวัสดุปักชำ โดยใช้ดินร่วน แกลบเผา และขุ๋ยมะพร้าว อัตราส่วน 1:3:3 มาคลุกผสมกัน และบรรจุในถุงเพาะชำ

ทำการคัดเลือกกิ่งแก่ด้วยการตัดกิ่งยาว 20-30 เซนติเมตร ให้ตัดใบออก โดยให้เหลือใบไว้ประมาณ 2-3 ใบ จากนั้น นำมาปักลงถุงเพาะชำในแนวเอียงประมาณ 45องศา แล้วรดน้ำให้ชุ่ม และดูแลต่อประมาณ 1 เดือน ราก และยอดก็จะเริ่มงอก จากนั้น ดูแลจนเริ่มการแตกยอดจนครบทุกตายอด ก่อนนำลงปลูกตามจุดที่ต้องการ (ข้อมูลจาก https://siamroommate.com)

Scroll to Top