กิ่งพันธุ์มะม่วงอาร์ทูอีทู จัดส่งถึงบ้าน ราคาถูก แบบเสียบยอด ออกผลเร็ว ปลูกง่าย คุณภาพดี ขายถูก

เรื่องน่ารู้ กิ่งพันธุ์มะม่วงอาร์ทูอีทู

สอบถาม โทร: 087-831- 4785 หรือติดต่อได้ที่ไลน์ ไอดี @tannaew และที่ facebook.com/tannaew99

มะม่วงมีหลายพันธุ์ ถามว่าพันธุ์ไหนอร่อยก็คงจะเถียงกันไม่จบ แล้วแต่คนชอบ ถามต่อว่าจะปลูกพันธุ์อะไรดีล่ะ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากปลูกเพื่อไว้ทานผลผลิตกันเองภายในครอบครัว หรือว่าปลูกแบบจริงจังเพื่อขายในไทย หรือไม่ก็ส่งออกต่างประเทศกันไปเลย ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ มะม่วงอาร์ทูอีทู แค่ชื่อก็ดูอินเตอร์กันแล้ว

ที่มา	น้ำหนัก	ความหวาน	ความสูง
นำเข้าจาก ออสเตรเลีย ถูกพัฒนามาจากมะม่วงพันธุ์เคนท์ (Kent)	เฉลี่ยต่อผล 800 กรัม-1 กิโลกรัม	18 องศาบริกซ์	6 เมตร หรือมากกว่า

“ลูกใหญ่ เนื้อแน่น สุก หอม หวาน ตั้นแน้วคอนเฟิร์มครับ”

หากท่านสนใจอยากได้กิ่งพันธุ์มะม่วงดีๆ มีคุณภาพ เรามีจำหน่ายหลายพันธุ์รวมถึง กิ่งพันธุ์มะม่วงอาร์ทูอีทู เข้ามาดูรายละเอียดของกิ่งพันธุ์ต่างๆ ได้ที่นี่ จำหน่าย สนใจสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ บริการจัดส่งทั่วไทย

ต้นกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย

ออสเตรเลีย คือถิ่นกำเนิดของมะม่วงพันธุ์ดังกล่าว ซึ่งแต่ก่อนคนไทยยังไม่รู้จัก จะรู้จักกันแค่มะม่วงน้ำดอกไม้ และสายพันธุ์อื่นๆ ที่เราชอบบริโภครวมถึงส่งออกด้วย แต่เมื่อสายพันธุ์นี้ถูกนำมาขยายในไทย ก็เริ่มเป็นที่นิยม เพราะว่ารสชาติไม่แพ้พันธุ์น้ำดอกไม้เลย และคุณภาพไม่แพ้ต้นแหล่งอย่างออสเตรเลีย ทำให้ขยายพันธุ์ได้ง่าย เพราะปลูกได้ทุกพื้นที่ น้ำหนักดีราวๆ 1กิโลกรัมได้ ปัจจุบัน “มะม่วงอาร์ทูอีทู” ส่งออกไปขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และรัสเซีย เป็นต้น

สิ่งที่เกษตรกรที่ปลูกพันธุ์ “อาร์ทูอีทู” กังวลอยู่บ้างคือ การออกผลผลิตนอกฤดูกาลนั้นทำได้ยากมาก เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ที่บังคับง่ายกว่า เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ หรือสายพันธุ์อื่นๆ ที่กินผลดิบ ดังนั้น ผลผลิตของพันธุ์อาร์ทูอีทูจึงมักจะมีให้เห็นเฉพาะในฤดูกาลคือช่วงเดือนเมษายน แต่ทว่า เกษตรกรก็สามารถที่จะเลือกปลูกพันธุ์อื่นๆ ได้ด้วย เพื่อให้มีมะม่วงออกผลผลิตให้เก็บเกี่ยวไปขายได้เรื่อยๆ โดยไม่ยึดติดอยู่กับพันธุ์ใดพันธุ์หนึ่ง

“อาร์ทูอีทู” เป็นพันธุ์กินผลสุก รสชาติหวานปนเปรี้ยว

มะม่วงอาร์ทูอีทู เป็นพันธุ์กินผลสุก มีรสชาติหวานปนเปรี้ยว เนื้อเหนียวละเอียด ไม่มีเสี้ยน สามารถเก็บไว้ได้นานเกิน 10 วันก็ไม่เน่า ทำให้เอื้อต่อการส่งออกได้เป็นอย่างดีเป็นผลดีต่อการขนส่งในระยะทางไกลๆ ที่สำคัญจุดเด่นอีกประการคือ “สี” ของผลสุกเต็มที่ จะสวยมากยิ่งตอนผลของมันต้องกับแสงแดด จะมองเห็นเป็นสีแดงอมส้ม ดูสวยงาม เห็นแบบนี้แล้วนอกจากปลูกไว้ขาย เราอาจจะปลูกไว้ประดับที่บ้านสักต้นสองต้นก็น่าสนใจไม่น้อย นอกจากจะได้กินผลสุกมันแล้ว ยังได้ความสุขทางใจจากการเห็นมันค่อยๆ เติบโต ออกดอก ออกผล

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://www.technologychaoban.com/agricultural-technology/article_84003